วันที่ 5 ก.พ.63 นายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลภายหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการ การบริหารจัดการผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา ร่วมกับแพทย์ พยาบาล และนักวิชาการ ว่าขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการวางมาตรการการจัดการไวรัสโคโรนากับบุคลากรเป็นอย่างดี ในการวินิจฉัยโรค และดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงประเด็นหลัก คือ เรื่องหน้ากากอนามัยแบบธรรมดาขาดตลาด ไม่มีจำหน่ายตามร้านขายยา ซึ่งทีมข่าวหลายสำนักก็ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว รองนายกฯ ให้คำตอบว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าหน้ากากอนามัยขาดตลาด ที่ไม่มีจำหน่ายน่าจะเป็นแบบ N95 ที่สามารถป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 มากกว่า ยืนยันว่ายังมีจำหน่ายทั่วไป และได้สั่งการให้มีการเพิ่มกำลังการผลิตอีกด้วย
นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังบอกอีกว่า ยังไม่พบว่าหน้ากากอนามัยในประเทศไทยขายเกินราคา และได้สั่งการกระทรวงพาณิชย์ในการควบคุมราคารวมถึงการส่งออกว่า ให้ควบคุมการจำหน่ายในประเทศให้เพียงพอก่อนจึงจะส่งออก
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้ฝากไปถึงประชาชนว่า หากพบการขายหน้ากากอนามัยเกินราคา ก็สามารถร้องเรียนไปทางกระทรวงพาณิชย์ได้ รวมถึงหากไม่มีหน้ากากอนามัยขายจริง ๆ สามารถมาขอซื้อได้ที่องค์การเภสัชกรรม ซึ่งมีการเตรียมไว้จำหน่ายอย่างเพียงพอ รวมถึงควบคุมราคาตามต้นทุน
ส่วนประเด็นการติดตามผลการรักษาผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาด้วยการใช้วัคซีนที่รักษาโรคเมอร์ส ร่วมกับวัคซีนต้านไวรัสเอดส์นั้น ยืนยันว่าเป็นเพียงกรณีศึกษา ที่ใช้ได้กับผู้ป่วยบางคน และบางอาการเท่านั้น โดยปกติก็จะยังคงรักษาตามอาการที่เป็น ไม่ใช่วัคซีนรักษาไวรัสโคโรนาแต่อย่างใด ทั้งนี้ ได้มีการส่งข้อมูลไปเป็นกรณีศึกษาให้กับทั้งใน และต่างประเทศแล้ว เพื่อเป็นแนวทางในการคิดค้นวัคซีนเพื่อรักษาไวรัสโคโรนาต่อไป
ซึ่งนายอนุทิน ยังคงยืนยัน และให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า สามารถควบคุมการระบาดของมการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้อย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนมั่นใจ.