Categories
ข่าว

นัดไว้ไม่มา!! “สมัชชาคนจน” จุดธูปเรียกวิญญาณ “แรมโบ้อีสาน” ลั่น! ต้องแก้รัฐธรรมนูญ 60

เมื่อเวลา 15:30 น. วันที่ 14 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า กลุ่มผู้ชุมนุมสมัชชาคนจนซึ่งปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ด้านข้างกระทรวงศึกษาธิการ

ได้รวมตัวกันและเดินมายังทำเนียบรัฐบาลบริเวณประตู 5 ด้านถนนราชดำเนิน เพื่อขอพบกับ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน กรรมการผู้ช่วยประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่มสมัชชาคนจน

โดยทางกลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่า นายสุภรณ์ ผลัดวันประกันพุ่ง บอกว่าจะออกมาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงของวันเดียวกันนี้แล้ว แต่ก็ไม่ได้เจอแม้แต่เงา

ทำให้ทางกลุ่มสมัชชาคนจน ได้ จุดธูปเรียกวิญญาณลงหม้อกลางถนน ทำพิธีเรียกวิญญาณ ตามประเพณีความเชื่อของทางภาคอีสาน เพื่อที่จะขอให้ได้พบกับ นายสุภรณ์ ให้ได้

โดย กลุ่มสมัชชาคนจน ออกแถลงการณ์ “เพื่อพ้นจากความจนจึงต้องเดินขบวน” โดยแถลงการณ์ระบุว่า สมัชชาคนจน (สคจ.) เป็นองค์กรชาวบ้านที่มีสมาชิกทั้งคนจนในชนบท และคนจนในเมือง พวกเราเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายการพัฒนาของรัฐ และได้รับความเดือดร้อนจนไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามวิถีปกติ

พวกเราจึงต้องรวมตัวกันออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหานับตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 20 ปี ผ่านมาแล้ว 10 รัฐบาล การแก้ไขปัญหาก็ยังไม่ได้ข้อยุติแต่อย่างใด

ปัจจุบันสมัชชาคนจน มีเรื่องร้องเรียนต่อรัฐบาล 35 กรณี เช่น ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ปัญหาการสร้างเขื่อนทำให้สูญเสียที่ดิน สูญเสียอาชีพ ปัญหาการประกาศเขตป่าทับที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน และถูกขับไล่ออกจากที่ดินตามนโยบายทวงคืนผืนป่า ปัญหาการประกาศเขตที่ดินสาธารณประโยชน์ทับที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน ปัญหาการละเมิดสิทธิแรงงาน เป็นต้น

สาเหตุของปัญหาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เกิดมาจากนโยบายการพัฒนาและการใช้อำนาจของรัฐในการออกกฎหมายที่ไม่เห็นหัวคนจน เพื่อแย่งชิงทรัพยากรและขูดรีดแรงงานของพวกเราเพื่อไปพัฒนาเมือง

พวกเราหยุดการเคลื่อนไหวไปประมาณ 10 ปีเพราะปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศเป็นปัญหาหลักในสังคม และเมื่อมีการรัฐประหารในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พวกเราก็มีความเห็นร่วมกันว่าพวกเราต้องคัดค้านการรัฐประหารและจะไม่สังฆกรรมกับเผด็จการ

แต่ในปัจจุบันมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และรัฐบาลได้ทำหน้าที่บริหารมาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว โดยเฉพาะหากนับเวลารวมไปกับ 5 ปีที่ผ่านมา ของคณะรัฐประหารถือได้ว่ารัฐบาลได้ทำหน้าที่มาอย่างยาวนาน และเพียงพอที่จะรับรู้เรื่องราวปัญหาต่างๆของสมัชชาคนจนได้เป็นอย่างดี จึงเป็นเวลาอันสมควรที่พวกเราจะออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาได้แล้ว

การชุมนุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสิทธิอันพึงมีพึงได้ของเรา ซึ่งมิได้หมายถึงเพียงแค่กรณีปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าที่ยืดเยื้อยาวนานเท่านั้น หากแต่ยังหมายรวมถึงการเรียกร้องสิทธิทางนโยบายที่รัฐบาลประกาศออกมาริดรอนละเมิดสิทธิของพวกเรา

และยังหมายถึงความตั้งใจของพวกเราที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตยอย่างที่พวกเราเรียกว่า“ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน”อย่างมั่นคงและเท่าเทียม พวกเราได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยให้รัฐบาลต้องฟังเสียงของพวกเรา เอาปัญหาของพวกเราเป็นตัวตั้งเฉพาะกลุ่มเฉพาะราย และรัฐต้องกระจายอำนาจการตัดสินใจไปสู่ชุมชนและท้องถิ่นเพื่อให้พวกเรามีอำนาจในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งที่ดิน น้ำ ป่า แร่ เป็นต้น และได้รับความเป็นธรรมจากการจ้างงาน

ด้วยเหตุผลตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น สมัชชาคนจนจึงได้จัดการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและมีกิจกรรมรณรงค์ในช่วงการเคลื่อนไหว เพื่อให้มีการเจรจา “อย่างเสมอหน้า” กับรัฐบาล สมัชชาคนจนจึงขอประกาศยืนหยัดในการปักหลักชุมนุม จนกว่าจะเกิดการเจรจาอย่างเสมอหน้ากับฝ่ายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นรูปธรรมต่อไป พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะเข้าใจเหตุผลและความจำเป็นที่สมัชชาคนจนได้ออกมารณรงค์เรียกร้องแก้ไขปัญหาในครั้งนี้

สมัชชาคนจนจึงขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ที่ให้การสนับสนุนและเข้าใจในเจตนารมณ์ของเราเพื่อ “หลุดพ้นจากความยากจนจึงต้องเดินขบวน” ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน