Tag: ด่านตรวจ

วันที่ 14 เม.ย. 65 ที่ห้องประชุม 211 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม นายธรรมนูญ แก้วคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทำงานด้านการติดตามและประเมินผลการประชุมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ 2565 พร้อมด้วย รตอ.ตนุพล พันธ์สวัสดิ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม ส่วนราชการ อำเภอ อปท.ร่วมรับฟังรายงานการเกิดอุบัติเหตุประจำวันที่ 13 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นวันที่ 3 ในห้วง 7 วันอันตรายพบมีอุบัติเหตุ โดยเกิดขึ้น 2 ครั้ง ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย สาเหตุเกิดจาก หลับใน ทัศนวิสัยไม่ดี ข้อมูลสะสม 3 วัน (11-13 เม.ย.65) มีอุบัติเหตุทางถนนในจังหวัดเกิดขึ้นรวม 9 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตสะสม 2 ราย ผู้บาดเจ็บสะสม 8 ราย ทั้งนี้ ประธานได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 13 […]

วันที่ 11 เมษายน 2565 นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ปลัดจังหวัดมหาสารคาม หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ การปฏิบัติงานการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 โดยลงพื้นที่จุดตรวจ/จุดบริการ อำเภอโกสุมพิสัย (จุดบริการประชาชน อบต.เขวาไร่,อบต.หัวขาวง) อำเภอกันทรวิชัย(เทศบาลตำบลท่าขอนยาง,เทศบาลตำบลขามเรียง) และ อำเภอเมืองมหาสารคาม (จุดบริการประชาชนเทศบาลตำบลเกิ้ง) ทั้งนี้ นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้กำชับให้ด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดบริการประชาชนทุกแห่ง ปรับแผนให้เหมาะสม รับการเดินทางของประชาชน เพิ่มความเข้มงวดการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำด่าน และเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องการดื่มสุรา หรือเมาแล้วขับที่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ให้เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อลดปัญหาของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้ใช้รถใช้ถนน รวมถึงเป็นจุดจอดพักรถ ให้มีความพร้อมสามารถเดินทางถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย สำหรับสภาพการจราจรในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ยังคงปกติ ปริมาณรถยังไม่มาก ซึ่งคาดการณ์ว่าประชาชนเริ่มเดินทางช่วงเย็นของวันที่ 12 เมษายน 2565 โดยจังหวัดมหาสารคาม มีการจัดตั้งจุดตรวจหลัก 26 แห่ง จุดตรวจรอง/จุดบริการ 136 […]

ตำรวจ สภ.หางดง เชียงใหม่ ทำฮือฮา ตั้งจุดรณรงค์ “เมาไม่ขับ” ช่วงเทศกาลปีใหม่ ให้เอกชนร่วมด้วย นำสาวแต่งตัวหวาบหวิว แจกเครื่องดื่มและกาแฟ สุดท้ายถูกวิจารณ์ถล่มยับเทียบกรณี ‘น้องโอลีฟ’ แถมไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ติงไม่เหมาะสม และแอบแฝงโฆษณา สั่งทำรายงานชี้แจงด่วน จากกรณีเมื่อวันที่ 1 ม.ค.65 เวลา 14.00 น. พ.ต.อ.พงษ์เดช คำใจสู้ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อม พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหางดง นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดชุมชนและชุดมวลชนสัมพันธ์ ตั้งจุดตรวจบูรณาการบนถนน หน้าที่ว่าการอำเภอหางดง รณรงค์ 10 รสขม ในห้วง 7 วันอันตราย โดยออกแจกจ่ายเครื่องดื่ม(กาแฟ) ให้แก่ประชาชนที่สัญจรไปมา โดยมีภาคเอกชนสนับสนุนเครื่องดื่มและส่งพริสตี้สาว มาร่วมแจกเครื่องดื่มด้วย โดยใช้นางแบบสวมเสื้อเกาะอก และมีการนำเสนอลงสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งปรากฏว่าถูกวิพากวิจารณ์หนัก ทั้งหญิงสาวแต่งกายไม่เหมาะสม เปรียบเทียบกับกรณี ‘น้องโอลีฟ’ และไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อีกทั้งเป็นการแอบแฝงโฆษณา ล่าสุดวันนี้ […]

วันที่ 20 เมษายน 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. ได้มีวิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงวันที่ 17 เม.ย. ถึง ผบช. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก.ในสังกัด สง.ผบ.ตร. ใจความว่า อ้างถึง ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน พ.ศ.2558, ว.ตร. ด่วนที่สุด ที่ 0009.121/23 ลง 4 ม.ค.2564 กำชับการปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และว.ตร. ด่วนที่สุด ที่ ศปม5.31/139 ลง 8 เม.ย.2564 กำชับการปฏิบัติในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของข้าราชการตำรวจ เนื่องจากปัจจุบันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ เดือนเม.ย. มีการขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น สามารถแพร่เชื้อติดต่อกันได้โดยผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ และขณะนี้มีข้าราชการตำรวจติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้การระงับยับยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงให้ดำเนินการ […]

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ภายหลังเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ออกคำสั่งไปให้ทุกพื้นที่รับทราบมาตรการของ ตร. ซึ่งให้มีการตั้งด่านได้ แต่ต้องมีความพร้อมตามมาตรฐานที่ทางตร.กำหนด คือ มีความโปร่งใส เป็นมาตรฐาน ตรวจสอบได้ โดยการใช้เทคโนโลยี ซึ่งการตั้งจุดตรวจต่างๆ ต้องมีความโปร่งใส พร้อมที่จะตรวจสอบจากประชาชน สิ่งที่จะทำให้โปร่งใสได้คือกล้องซีซีทีวีเคลื่อนไหวได้ที่จะต้องมีประจำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ตรวจ และด่านต่างๆ เช่น ด่านกวดขันวินัยจราจร ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ด่านตรวจวัดมลพิษทางอากาศ ด่านอาชญกรรม ฯลฯ จะต้องมีมาตรฐานเดียวกัน ต้องมีป้ายที่มีมาตรฐาน และนำเทคโนโลยีมาใช้ อาทิ ด่านเมา จากเดิมเคยมีปัญหาร้องเรียนต่างๆ ก็จัดให้มีกล้องบันทึกภาพแบบเรียลไทม์ไว้ประจำจุดที่มีการยืนยันผลด้วย ส่วนการจะตั้งจุดตรวจจะมีผู้ควบคุมกำกับดูแลคือผู้บังคับการในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้จะมีป้ายแสดงข้อความหากต้องการร้องเรียนได้ที่สายด่วนตร. 1599 และเบอร์โทรศัพท์ผู้บังคับการ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทาง ผบ.ตร.ได้ให้ทำฐานข้อมูล TPCC (Traffic Police […]

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ คำสั่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงที่ 18/2563 เรื่อง การปฏิบัติตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548(ฉบับที่ 4) ลงนามโดย พลเอกพรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำหรับสาระสำคัญของประกาศฉบับดังกล่าวยังคงให้มีการปฏิบัติตามคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ทั้งในเรื่องการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ การมอบอำนาจ ยังคงมีผลบังคับใช้ รวมถึงการจัดตั้งจุดตรวจร่วม รวมถึงชุดสายตรวจร่วม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุการก่ออาชญากรรม การรวมกลุ่มชุมนุม มั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือการกระทำที่เป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน และให้ยกเลิกการปฏิบัติการที่เกี่ยวกับการบังคับใช้มาตรการห้ามออกนอกเคหสถาน ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป

วันที่ 12 เมษายน 2563 ภายหลังเสร็จสิ้นการติดตามงานและภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่ State Quarantine (โรงแรม Elegant Airport Hotel) ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้รับทราบว่าไม่มีปัญหาอะไรติดขัด ทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดี จากนั้นไปตรวจเยี่ยมด่านตรวจคัดกรอง ของ สถานีตำรวจอุดมสุข เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มข้น และย้ำให้ยึดตามมาตรการต่างๆอย่างเข้มงวด  

วันที่ 9 เม.ย. โลกออนไลน์ได้แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องของพยาบาลที่เจอปัญหาในช่วงประกาศเคอร์ฟิว ช่วงเวลา 22.00-04.00 น. และบุคลากรทางการแพทย์ก็ได้รับการยกเว้น แต่กลับมาเกิดปัญหา โดยระบุว่า มีพยาบาลลงเวรช่วงเที่ยงคืนกว่าและกำลังกลับบ้าน หลังทำงานมา 16 ชั่วโมง กระทั่งมาเจอด่านเคอร์ฟิว จึงยื่นบัตรพยาบาลให้ แต่ตำรวจไม่อ่านกลับซักประวัติแทน ก่อนจะถูกปล่อยไป วันต่อมาเวลาประมาณ 01.00 น. พยาบาลอีกคนลงเวร และกำลังจะกลับบ้านพอมาเจอด่านก็ถูกเรียกตรวจและซักถาม ทั้งที่ยื่นบัตรให้ดูแล้ว แต่คราวนี้กลับถามว่า “มีใบบันทึกข้อความยืนยันมั้ย” ทำให้พยาบาลคนดังกล่าวถึงกับงง ก่อนจะโทรไปที่หน่วยงานพิมพ์บันทึกข้อความให้และส่งไปให้ตำรวจ ตี 2 กว่าจะเสร็จ และล่าสุดเที่ยงคืนของวันที่ 9 เม.ย. ก็มีพยาบาลกลับบ้านไปเจอด่านประจำที่เคยเจอ จึงได้ยื่นใบบันทึกข้อความและบัตรเจ้าหน้าที่ให้ตำรวจ แต่ตำรวจก็ถามคำถามเดิมๆ พร้อมกับให้ลงจากรถ ไปต่อแถวรอสแกนบัตร จึงทำให้พยาบาลคนดังกล่าวสงสัยว่า ทำงานมา 16 ชั่วโมงต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเหรอ เพราะเธอมีเวลานอนแค่ 4-5 ชั่วโมง ก่อนจะกลับไปงานต่อพรุ่งนี้เช้า แต่สิ่งที่ได้ยินกลับมาคือ “พยาบาลนี่เป็นบุคลากรทางการแพทย์รึเปล่า”

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 เม.ย.ที่ ศบค.พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แถลงว่า ในการปฏิบัติของฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ทาง ผบ.ทสส.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงได้หารือเป็นระยะกับทาง ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตร.และปลัดกระทรวงมหาดไทย กำหนดแนวทางในการปฏิบัติเพื่อรองรับมาตรการต่างๆที่รัฐบาลได้ประกาศออกมา ซึ่งในส่วนของด่านตรวจ ซึ่งเป็นจุดตรวจคัดกรองในรอยต่อระหว่างจังหวัดและกรุงเทพมหานครจะมีการปรับจุดตรวจคัดกรอง ซึ่งมีทั้งหมด 421 จุด โดยมุ่งเน้นการใช้กฎหมายให้เข้มข้นมากขึ้นและจากควบคุมการเดินทางข้ามจังหวัดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เช่นในช่วงเวลาที่ประกาศเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น.จะต้องไม่มีการเดินทางยกเว้นเงื่อนไขตามที่กำหนดได้ระบุ และตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวไว้ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงเห็นพ้องร่วมกันว่าจะต้องมีการเพิ่มจุดตรวจร่วม หรือชุดเคลื่อนที่เร็ว ในลักษณะของใยแมงมุมทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ ซึ่งจะเป็นการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างตำรวจ ฝ่ายปกครองกรุงเทพมหานคร และ รอ.รมน.จังหวัด รวมทั้งสารวัตรทหาร จะร่วมกันจัดจุดตรวจครอบคลุมทุกพื้นที่ และจะมีการเพิ่มสายตรวจในทุกสถานีตำรวจเพื่อให้กระจายไปถึงระดับ อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน และร่วมกันทำงานระหว่างตำรวจ ฝ่ายปกครองและทหาร ที่จะช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุข อสม.ในการไปเคาะประตูบ้านเพื่อตรวจสอบคัดกรองผู้ที่อาจจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยง จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปช่วยร่วมปฏิบัติเพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกและ ความปลอดภัย […]

เมื่อเวลา 09:00 น. วันที่ 26 มีนาคม 2563 ที่ถนนหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลเขวาไร่ อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ร่วมด้วยฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ สำนักงานขนส่งจังหวัดมหาสารคาม ตำรวจ ทหาร และอาสามูลนิธิ ผนึกกำลังร่วมมาตรการเฝ้าระวังบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางโดยทางรถยนต์ทั้งรถโดยสารประจำทาง และรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม โดยจังหวัดมหาสารคาม ใช้มาตรการป้องกันคุมเข้มป้องกันและลดความเสี่ยงจากไวรัสโควิด-19 ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถทุกคัน ต้องผ่านการคัดกรองก่อนเข้าเมืองมหาสารคาม เพื่อรอดพ้นจากความเสี่ยง ปลอดเชื้อโควิด-19 และผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ต้องไม่มีไข้สูงเกิน 37.5 องศา หากวัดอุณหภูมิแล้วเกินมาตรฐานต้องกักตัวเพื่อนำส่งต่อเข้ารับการตรวจว่าติดเชื้อหรือเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ จะได้คัดกรองเข้ารับการตรวจเพื่อวินิจฉัยยืนยัน การตั้งจุดคัดกรองในครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง นำเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตรวจวัดร่างกายของคนขับและผู้โดยสารทั้งที่เดินด้วยรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารทุกชนิดอย่างเข้มแข็ง พร้อมซักถามประวัติที่จุดลงทะบียนบริเวณภายในเต้นท์ ซึ่งจุดหน้า อบต.เขวาไร่เป็นด่านแรกในการสกัดการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามตลอดทั้ง 24 ชั่งโมง โดยวันนี้ผู้เข้าตรวจคัดกรองแสดงออกร่วมกันถึงความรับผิดชอบต่อสังคม จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้จังหวัดมหาสารคามยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19