Categories
ข่าว

ชงผู้ว่าจ่อสั่งปิด! 2 ผับดังเมืองร้อยเอ็ด โดน 5 ข้อหาหนัก หลังฝ่ายปกครองบุกตรวจจับ

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 25 ม.ค. 63 กรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี ประสิทธิ์ ฉ่ำมณี รักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด  พนักงานฝ่ายปกครองส่วนกลาง จากสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กว่า 100 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเอ็ด บุกเข้าจับกุมสถานบันเทิงชื่อดังกลางเมืองร้อยเอ็ด 2 แแห่งซึ่งตั้งอยู่ ต.เหนือเมือง  อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด  ซึ่งมีการปล่อยปละละเลยให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้าไปใช้บริการภายในร้านจำนวนมาก และยังเปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด เป็นเหตุให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน

สืบเนื่องจากจังหวัดร้อยเอ็ดได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่บ่อยครั้ง ว่ามี 2 สถานบริการ กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ. สถานบริการ พ.ศ. 2509 ด้วยการปล่อยเด็กเยาวชนเข้าใช้บริการ  เปิดทำการเกินเวลา และปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ  ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายและขัดคำสั่ง หน.คสช. ที่ 22/2558  จึงประสานกับกรมการปกครองส่วนกลาง ให้เข้ามาร่วมดำเนินการตรวจสอบสถานบันเทิงทั้ง  2 แห่ง โดยร้านแห่งหนึ่งมีการจัดกิจกรรมปาร์ตี้รถแห่เพื่อดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการ ภายในร้านพบนักเที่ยวจำนวนกว่า  200 คน กำลังเต้นอย่างเมามันพบว่าเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ 78 คน จึงดำเนินการทำบันทึกและแจ้งผู้ปกครองมารับตัวกลับบ้าน นอกจากนี้ตรวจพบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน 19 คน จึงนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับ โดยร้านแห่งหนึ่งโดยมี น.ส.อรทัย ภักดีสมัย อายุ 31 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน มีน.ส.รักษยา แสงฤทธิ์  เป็นผู้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ จึงได้จับกุมตัวดำเนินคดี

จากการตรวจสอบภายในร้านอีกแห่งหนึ่งพบนักเที่ยว จำนวนกว่า 400 คน เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี 138 คน โดยมีเด็กอายุต่ำสุดเพียง 13 ปี จึงส่งตัวให้ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดร้อยเอ็ด ดำเนินการทำบันทึกวางข้อกำหนดมิให้เด็กประพฤติเสียหายต่อการกระทำผิด และแจ้งผู้ปกครองมารับตัวไปปกครองดูแลต่อไป  นอกจากนี้ยังตรวจพบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน 39 คน จึงส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับ  และยังพบยาเส พติด ตกอยู่ประกอบด้วยยาไ อซ์ จำนวน 3 ซอง มีนายรุ่งโรจน์ วรนาม อายุ 43 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน  โดยมีน.ส.ชัชวรรณณ์ ลีโรจนวุฒิกุล  เป็นผู้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ  จึงได้จับกุมตัวส่งดำเนินคดี


 
นายสิรภพ นิยมเดช หน.กลุ่มบูรณาการภารกิจพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้เปิดเผยข้อมูลว่าได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่บ่อยครั้ง ว่าทั้ง 2 สถานบริการ กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ. สถานบริการ พ.ศ. 2509 ด้วยการปล่อยเด็กเยาวชนเข้าใช้บริการ  เปิดทำการเกินเวลา และปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ  ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายและขัดคำสั่ง หน.คสช. ที่ 22/2558  จึงประสานกับกรมการปกครองส่วนกลาง ให้เข้ามาร่วมดำเนินการตรวจสอบสถานบันเทิงทั้ง  2 แห่ง

จากการตรวจสอบภายในร้านบูซเซอร์ พบนักเที่ยว จำนวนกว่า 400 คน เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 138 คน โดยมีเด็กอายุต่ำสุดเพียง 13 ปี จึงดำเนินการบันทึกและแจ้งผู้ปกครองมารับตัวต่อไป นอกจากนี้ยังตรวจพบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 39 คน จึงส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับ ขณะเดียวกันระหว่างตรวจสอบภายในร้านยังพบยาเสพติด ตกอยู่ประกอบด้วยยาไอซ์ จำนวน 3 ซอง มีนายรุ่งโรจน์ วรนาม อายุ 43 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน โดยมีนางสาวชัชวรรณณ์ ลีโรจนวุฒิกุล เป็นผู้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง จึงได้จับกุมตัวและร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด
1.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ
2.ไม่ตรวจบัตร ประจำตัวประชาชนของผู้เข้าใช้บริการ
3.ไม่จัดทำประวัติพนักงานก่อนเริ่มเข้าทำงาน
4.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร

ส่วนร้านโดรน คลับ พบนักเที่ยว จำนวนกว่า 200 คน เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ จำนวน 78 คน จึงดำเนินการทำบันทึกและแจ้งผู้ปกครองมารับตัวกลับบ้าน นอกจากนี้ตรวจพบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 19 คน จึงนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายต่อไป โดยร้านโดรนคลับ มีนางสาวอรทัย ภักดีสมัย อายุ 31 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน มีนางสาวรักษยา แสงฤทธิ์ เป็นผู้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ จึงได้จับกุมตัวและร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด
1.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ
2. ยินยอมหรือปล่อยให้มีการนำอาวุธเข้าไปในสถานการ
3.ไม่ตรวจบัตร ประจำตัวประชาชนของผู้เข้าใช้บริการ
4.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี
5.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร

โดยสถานบันเทิงทั้ง  2 แห่งที่ถูกจับกุมในวันนี้  มีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการครบทั้ง 2 แห่ง  ซึ่งการที่ผู้ประกอบการได้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการนั้น คือข้อตกลงที่ผู้ประกอบการมีหน้าที่ต้องประกอบธุรกิจให้เป็นไปตามกฎหมาย หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะถูกเพิกถอนใบอนุญาต มีโทษทางอาญา และโทษทางปกครองสั่งปิดสถานประกอบการที่ฝ่าฝืนเป็นเวลา  5 ปีกรมการปกครองจะกวดขัน จับกุม ปราบปราม สถานบริการที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ผู้ประการการสถานบันเทิงควรมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยประกอบธุรกิจให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็ก ไม่สมควรให้เยาวชนเข้ามาใช้บริการหรือใช้เป็นที่มั่วสุม เพราะเป็นต้นทางนำไปสู่ปัญหาสังคมอื่นตามมากมายมาย เพราะหากผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว จะส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยรวม