Categories
ข่าว

พิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 6,515 คน (วันที่สอง)

เมื่อเวลา 08.45 น.วันที่ 15 ธันวาคม 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีการศึกษา 2562 เป็นวันที่สอง

โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมหาสารคาม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม นายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี รองอธิการบดี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม ผู้แทนบัณฑิต ผู้แทนนิสิต และผู้แทนนักเรียน เฝ้า ฯ รับเสด็จ

ในปีนี้มีผู้สำเร็จการศึกษาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร รวมจำนวนทั้งสิ้น 9,875 คน ประกอบด้วย ระดับปริญญาเอก 88 คน ปริญญาโท 294 คน และปริญญาตรี 9,493 คน ซึ่งในปีนี้ได้กำหนดให้มีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรจำนวน 2 วัน ระหว่างวันที่ 14-15 ธันวาคม 2563

โดยในวันที่สองนี้มีผู้สำเร็จการศึกษาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ในระดับปริญญาตรี ทั้งภาคเช้าและภาคบ่ายรวมทั้งสิ้น 6,515 คน ภายหลังพิธีพระราชทานปริญญาบัตร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาทแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม

พระราโชวาท สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สําเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจําปีการศึกษา ๒๕๖๒
ณ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม วันอังคารที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๓

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้า มาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจําปีนี้ ขอแสดงความชื่นชมต่อผู้ทรงคุณวุฒิและบัณฑิตทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสําเร็จ ทั้งขอขอบใจมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก ที่มอบปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชา ภาษาตะวันออก แก่ข้าพเจ้า

การที่บัณฑิตได้สําเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนั้น มีความสําคัญต่อสังคมอย่างมาก เพราะสังคมจะมีทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้สูงเพิ่มขึ้นอีกเป็นจํานวนมาก มาช่วยกันสร้างสรรค์ ประโยชน์และความเจริญมั่นคง. บัณฑิตทุกคนจึงควรตระหนักถึงความสําคัญในข้อนี้ แล้วตั้งใจ พยายามนําความรู้ที่มีอยู่ ไปใช้ให้บังเกิดผลเป็นประโยชน์ ด้วยความเข้าใจ จริงใจ และเต็มใจ ที่ว่าใช้ด้วยความเข้าใจนั้น คือเข้าใจว่า จะนําความรู้ใด ไปใช้ทําอะไร และต้องใช้อย่างไร ที่ว่าใช้ด้วยความจริงใจ หมายความว่า มีความสุจริตบริสุทธิ์ใจ ที่จะนําความรู้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ อย่างแท้จริง ไม่นําความรู้ไปบิดเบือนเพื่อให้บังเกิดผลในทางเสื่อมเสียหาย. ที่ว่าใช้ด้วยความเต็มใจ หมายถึง ยินดีและสมัครใจ ที่จะนําความรู้ไปใช้โดยเต็มกําลังสติปัญญาความสามารถ จนงานที่ทํา สําเร็จผลเป็นประโยชน์ยั่งยืนแก่ตนแก่ส่วนรวม. จึงขอให้บัณฑิตทุกคนพิจารณาเรื่องนี้ให้ทราบชัด แล้วนําไปเป็นแนวทางปฏิบัติในการใช้ความรู้ ให้สมกับที่แต่ละคนเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า ของสังคมสืบไป.

ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้บัณฑิตใหม่ มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตและหน้าที่การงาน ทั้งขอให้ทุกท่านที่มาร่วมในพิธีนี้ มีความสุขสวัสดี โดยทั่วกัน

ภาพ : บุณฑริกา ภูผาหลวง และอภิราม ทามแก้ว
ข่าว : บุณฑริกา ภูผาหลวง