Categories
ข่าว

ไม่ระวังตัวเอง!! ‘อนุทิน’ บั่นทอนกำลังใจ บุคลากรทางการแพทย์ติดโควิด-19 หมอฟังแล้วเดือด

วันที่ 26 มี.ค.63 นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงาน กรมอนามัย Clean Together คนไทยรวมพลังป้องกันโรค ย้ำมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing ควบคุมการแพร่ระบาดในวงจำกัด ขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านอาหารในรูปแบบเดลิเวอรี่ ควบคุมความปลอดภัยตั้งแต่ต้นทางการเลือกวัตถุดิบ ตลอดจนการขนส่ง กระทั่งถึงผู้บริโภค

นายอนุทิน ระบุว่าขอความร่วมมือให้คนไทยปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing ให้ได้มากกว่าร้อยละ 80 เพราะจากผลวิจัยพบว่าจะสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อได้จำนวนมาก และจะช่วยควบคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้ช้าที่สุดจำกัดพื้นที่การระบาดให้ได้มากที่สุด

ส่วนผู้ประกอบการร้านอาหารในรูปแบบเดลิเวอรี่ ต้องใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบสดใหม่ อาหารปรุงสุกใหม่แยกเป็นสัดส่วนบรรจุในภาชนะที่เหมาะสม อยู่ในภาชนะปิดสนิท มีข้อมูลสถานที่ผลิต รวมทั้งวันเดือนปีที่ผลิต ระยะเวลาในการจัดเก็บอาหาร และมีเครื่องหมาย อย.

ส่วนกล่องบรรจุอาหารท้ายยานพาหนะที่ใช้ขนส่งอาหารทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค ด้วยแอลกอฮอล์ ร้อยละ 70 ก่อนและหลังการปฎิบัติงานขณะที่ สุขลักษณะของผู้ขนส่งอาหาร หากมีอาการคล้ายโรคระบบทางเดินหายใจ ให้หยุดปฏิบัติงานและไปพบแพทย์ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยระหว่างปฏิบัติงาน และไม่สวมใส่ถุงมือผ้าในลักษณะสัมผัสอาหาร รวมทั้งล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดมือสม่ำเสมอ

ด้านการขนส่งอาหาร ระหว่างปฏิบัติงานคนขนส่งอาหารจัดส่งอาหารเว้นระยะรับส่งอาหารอย่างน้อย 1 เมตรหรือจัดวางในบริเวณที่ผู้รับกำหนดบริโภคตรวจสอบคุณภาพอาหารที่ได้รับการขนส่งอาหารโดยทันที ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข มีมาตรการป้องกันและให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนมาตลอด เมื่อมีมาตรการฉุกเฉินแล้ว

สิ่งที่การแพทย์ต้องการให้เกิดขึ้นก็คือการอยู่เป็นที่ของประชาชน ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายโดยส่วนราชการ เพื่อทำให้ประชาชนสามารถอยู่ในที่ที่จำกัดได้ ไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่รวมกันเป็นกลุ่ม ไม่ออกไปสันทนาการต่างๆ ตามร้านอาหารซึ่งช่วงนี้สถานบันเทิงต่างๆ ได้ปิดแล้ว หากทำอย่างนี้ได้ 14 วัน เชื้อโรคไม่ไปไหน ทุกคนก็จะ Clean ส่วนคนที่เป็นโรคก็จะเจอทั้งหมด และสามารถนำมารักษาได้

แต่ถ้าทำไม่ได้ในเวลา 14 วันก็จะทอดเวลาออกไปเรื่อยๆ ซึ่งมั่นใจว่าประชาชนทุกคนต้องการที่จะกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุดกฎหมายเป็นกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นมาทำให้คนที่ไม่ให้ความร่วมมือ ขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนสอดส่องดูแลช่วยแจ้งหน่วยงานราชการ ก็จะปลอดภัย นี่คือนัยยะของการใช้พระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินมาบริหารประเทศลดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19

ส่วนกรณีที่ บุคลากรทางการแพทย์ ติดเชื้อโควิด-19 นายอนุทิน ระบุว่า เท่าที่ได้รับรายงานบุคลากรทางการแพทย์ ติดเชื้อโควิด-19 จากการปฏิบัติหน้าที่ให้การรักษาโควิดยังไม่มี นี่เป็นสิ่งจะต้องไปหวดกัน ยอมรับว่าไม่พอใจที่บุคลากรทางการแพทย์ไม่เฝ้าระวังตัวเอง ซึ่งต้องเป็นบุคคลตัวอย่าง แม้จะไม่ใช่บุคคลตัวอย่างแต่ต้องไปคนที่เตรียมความพร้อมตัวเองตลอดเวลาและป้องกันตัวเองให้มากที่สุด

ยอมรับที่ผ่านมามาตราการบางอย่างอาจจะยังไม่เข้มข้น จากนี้ไปมาตราการเข้มข้น ขอให้แพทย์พยายามรักษาตนเองเป็นอย่างดีและเป็นตัวอย่าง เป็นกำลังใจ ที่จะทำให้ตัวเองปลอดภัยให้การดูแลรักษาคนติดเชื้ออย่างสุดความสามารถ ส่วนบุคคลทางการแพทย์ที่ป่วยให้การรักษาอยู่แต่ไม่มีใครแสดงอาการที่รุนแรงคาดว่า 5-7 วันจะหายและสามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ ขณะที่คนที่อยู่รอบข้างสอบสวนโรคไปแล้ว 3-4 ทอด และให้กักตัวออกจากผู้อื่นแล้ว ย้ำสิ่งเหล่านี้ต้องระวังมัวแต่นะวังนอกบ้านให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นต้องขออภัยด้วย

ส่วนยาที่เคยขาดแคลนในช่วงสองเดือนแรก เนื่องจากหลายประเทศสำรองไว้ใช้รักษาผู้ติดเชื้อในประเทศ ตอนนี้เมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ประเทศผู้ผลิดยาเริ่มส่งออกมาให้ประเทศไทยแล้ว โดยองค์การเภสัชกรรมได้ซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ ยาที่ดีที่สุดในการบรรเทาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้เป็นแสนเม็ดแล้ว ซึ่งมีพอเพียงต่อการรักษาแน่นอน หากคนไทยให้ความร่วมมือไม่ทำให้การระบาดเพิ่มเป็นทวีคูณ

ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงฯ และหลายฝ่ายพยายามจะประสานความร่วมมือโรงพยาบาลเอกชน และโรงแรม ทำเป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อให้เพิ่มเตียงมากขึ้น เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่าร้อยละ 80 ที่มีอาการไม่หนักมาก ตั้งแต่เมื่อวานทยอยส่งผู้ติดเชื้อไปยังห้องพักเหล่านี้แล้ว เพื่อสำรองเตียงในโรงพยาบาลให้ผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนัก

ส่วนที่ต่างจังหวัดให้เครือข่าย อสม. และแอพพลิเคชั่นติดตามตัว ยืนยันสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติมาเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วในการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 หากประชาชนให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing จะทำให้เตียงและยาในการรักษาเพียงพอแน่นอน.

ทั้งนี้ โลกออนไลน์ได้วิพากษ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าวอย่างหนัก เพจ Drama-addict ได้โพสต์ “บุคคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อ ไม่ใช่เพราะเขาไม่เฝ้าระวังตัวเอง เขามีความรู้ เขาเรียนมา แต่ปัญหาคือเขาไม่มีอุปกรณ์ป้องกันที่เพียงพอโว้ย!!!”

นอกจากนี้ ยังได้แชร์คอมเมนต์ จากแพทย์รายหนึ่ง ที่แสดงความคิดเห็นว่า เป็นการบั่นทอนกำลังใจในการทำงานอย่างยิ่ง พร้อมระบุว่า “เรียน ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha เพื่อขวัญและกำลังใจของบุคลากรทางการแพทย์ ควรเปลี่ยน รมต ซะ เพราะคนที่เป็นอยู่ไม่คู่ควรที่จะทำงานในตำแหน่งนี้อีกต่อไป”