เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 พ.ย.63 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร และกลุ่มไทยภักดี จะไปชุมนุมที่หน้ารัฐสภาในวันที่ 17 พ.ย.เพื่อติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เขาเตรียมการไว้แล้ว ที่จะต้องดูแลทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นการไปกดดันให้ผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนของไอลอว์ และหากไม่ผ่านจะเกิดปัญหาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา ทั้งส.ส. และส.ว. เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้พูดคุยกันหรือยังเกี่ยวกับการลงมติร่างฉบับไอลอว์ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องคุยกันทั้งหมด ก็ต้องว่ากันไป เมื่อถามกรณีที่ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพปชร. ระบุจะไม่รับร่างฉบับไอลอว์ ถือเป็นมติของพรรคพปชร. หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ใครพูด คนนั้นก็ต้องรับผิดชอบ”
Tag: ประวิตร วงษ์สุวรรณ
จากกรณีมีเอกสารจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลุดออกมาว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงนามในประกาศคณะกรรมการประกาศปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ตามพ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. อนุญาตให้ใช้ที่ดิน ส.ป.ก.เพื่อกิจการอื่น โดยบางข้ออนุญาตให้นายทุนเช่าพื้นที่ตั้งโรงงานได้ วันที่ 13 พ.ย.2563 ที่กรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวล้อม (ทส.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมมอบนโยบายและตรวจเยี่ยมกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. และผู้บริหารสังกัด ทส. ต้อนรับ พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์หลังการมอบนโยบายว่า ได้มอบนโยบายแก่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ในทุกเรื่องๆ ไปแล้ว ทั้งเรื่องทรัพยากรน้ำ และน้ำบาดาล ในการกักเก็บน้ำบนดินและน้ำใต้ดิน เพื่อสามารถนำไปใช้ในปีต่อๆ ไป ส่วนเรื่องทรัพยากรป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำชับให้ทางกระทรวงดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลที่มอบหมายไว้ พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ต้องขอบคุณกระทรวงทรัพยากรฯ ที่ต้อนรับและทำงานร่วมกันมาด้วยความเรียบร้อย ดูแลให้ประชาชนได้อย่างดีมาตลอด เมื่อถามเรื่องไฟป่ามีการเตรียมการอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราเตรียมการรับมือไฟป่าไว้อยู่แล้วจนถึงปี […]
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 พ.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายรองนายกฯ และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ 2564 ว่า เน้นย้ำข้าราชการทุกคนต้องวางตัวเป็นกลางสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น เพราะตามกฎหมายกำหนดไม่ให้นักการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว เมื่อถามถึงการชุมนุมกลุ่มราษฎรที่นัดชุมนุมใหญ่วันที่ 8 พ.ย.มีมาตรการดูแลอย่างไรพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ชุมนุมได้แต่ต้องไม่ผิดกฎหมาย และทางการข่าวก็ไม่น่ากังวล เมื่อถามย้ำว่ามีการดูแลป้องกันสถานที่ราชการสำคัญเช่น ทำเนียบรัฐบาลอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ต้องดูแลสถานที่ราชการสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามถึงความคืบหน้าพูดคุยเจรจาสร้างความปรองดองสมานฉันท์กับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และไม่ขอแสดงความเห็นว่าจะได้ผลกลับมาในทางที่ดีหรือไม่ ทุกอย่างอยู่ที่กระบวนการของสภา เมื่อถามว่าเมื่อวาน (5 พ.ย.) ระหว่างบรรยายเปิดหลักสูตรนักศึกษา วปอ.รุ่นที่ 63 นายกฯได้ตัดพ้อ เหมือนเป็นการถอดใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนจะไปรู้ได้อย่างไร ให้ไปถามนายกรัฐมนตรี เอง และนายกรัฐมนตรีไม่เคยมาพูดเรื่องกำลังใจกับตน มาพูดคุยกันแค่เรื่องงานเท่านั้น
เมื่อเวลา 07.55 น. วันที่ 20 ต.ค.2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการเสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อหาทางออกให้กับประเทศจะมีการหาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ ว่า ถามซ้ำก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องพิจารณา ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็จะไปรู้ได้อย่างไร เมื่อถามย้ำว่า จะต้องกำหนดประเด็นที่จะหารือในที่ประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็แล้วแต่รัฐสภาจะพูดคุยกัน ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศว่าหากไม่มีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กทม.ภายใน 24 ชั่วโมงจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ รองนายกฯ กล่าวว่า ก็จะไปรู้หรือ
วันที่ 18 ต.ค.63 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า พรรคพลังประชารัฐได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ซึ่งพรรคมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเมืองเช่นเดียวกับระชาชนคนไทยทุกๆ คน โดยเฉพาะกรณีที่มีผลกระทบต่อสถาบัน จึงขอแถลงจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐ ดังนี้ 1. พรรคพลังประชารัฐยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. พรรคพลังประชารัฐมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 3. พรรคพลังประชารัฐ สนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญโดยกระบวนการทางรัฐสภา และเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องไม่กระทบหมวด 1 และ หมวด 2 อันเป็นลักษณะสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของไทย ซึ่งทุกฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่า จะธำรงรักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข